หลังจากได้สาปแช่ง
สมองหมา ปัญญาควาย
PAKAVAKORN จนผมสบายใจแล้ว เรามาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความโง่ของ สมองหมา
ปัญญาควาย PAKAVAKORN คนนี้กันต่อ
คราวนี้
จะวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างวิเคราะห์เจาะลึก ถึงความโง่ของสมองหมา ปัญญาควาย PAKAVAKORN คนนี้
ในกระทู้
“ดร. มนัส โกมลฑา
กับการปกป้องพระพุทธศาสนา ผมอ่านบทความของท่านแล้วรู้สึกไม่ดีเลยครับ” สมองหมา
ปัญญาควาย
PAKAVAKORN เข้ามาให้ความคิดเห็นแรก โดยแก้การโชว์โง่ของ
Chohokun ว่า
สายนายการุณย์ครับ ซึ่งทางวัดปากน้ำก้อไม่ได้รับรองอะไร
ไม่ให้ไปยุ่งด้วยซ้ำ
วันนี้จะวิเคราะห์ว่า
“วัดปากน้ำก้อไม่ได้รับรองอะไร” และ “ไม่ให้ไปยุ่งด้วยซ้ำ” ปัญหาที่ควรจะวิเคราะห์ก็คือ
1)
สมองหมา ปัญญาควาย
PAKAVAKORN มันเป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำหรืออย่างไร? ถึงได้กล้าฟันธงไปขนาดนั้น
ในความเป็นจริงแล้ว
สมองหมา ปัญญาควาย
PAKAVAKORN ไม่ได้อยู่ในสายวิชาธรรมกายเลย
ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับสายวิชาธรรมกายอย่างแท้จริง
สมองหมา
ปัญญาควาย
PAKAVAKORN ก็เหมือนควายในพันธุ์ทิพย์ทั่วไป คือ อ่านนิดหน่อย
แต่อยากจะแสดงความโง่ ไม่พอใจอะไร
มันก็สำรอกความโง่ของมันออกมา
ในทางวิชาธรรมกายด้วยกัน
กลุ่มที่มีวิชาธรรมกายชั้นสูง เขาเห็นหน้ากัน เขาก็รู้แล้วว่า คนๆ
นั้นมีวิชาในระดับไหน
อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ
ดังนั้น
เมื่อเราพบคนๆ
หนึ่ง เราอยากจะรู้ว่า เขาเป็นคนอย่างไร เราก็เอาใจของเราหยุดที่ปากช่องจมูก
ที่เพลาตา ที่จอมประสาท และลงไปที่ฐานที่ 7
นึกดูดวงธรรมของเขา พอเราเห็นดวงธรรม เราก็จะรู้เลยว่า คนๆ นั้น
เป็นคนอย่างไร มีบุญบารมีในระดับไหน
กลับมาถึงเรื่องคุณลุงการุณย์
บุญมานุช หนังสือของหลวงพ่อวัดปากน้ำทั้ง
4 เล่ม คือ
คู่มือสมภาร
วิชชามรรคผลพิสดาร
วิชชามรรคผลพิสดาร ๒
คุณลุงการุณย์
บุญมานุชเขียนอธิบายการปฏิบัติแบบบทต่อบท
ซึ่งไม่มีลูกศิษย์คนใดของหลวงพ่อวัดปากน้ำทำได้อย่างนั้นอีก
แค่นี้
ลูกศิษย์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำก็รู้แล้วว่า
คุณลุงการุณย์มีวิชาธรรมกายในระดับใด
การที่จะพูดหรือกล่าวออกมาอย่างไร มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
โดยสรุปในประเด็นนี้
สมองหมา ปัญญาควาย
PAKAVAKORN มันมีสิทธิ์อะไร และมีความรู้อะไรที่จะไปเขียนอย่างนั้น
มันก็เป็นสันดานของควายโง่ๆ
ที่อยากแสดงความโง่ออกมาเท่านั้น ถ้าสมองหมา
ปัญญาควาย
PAKAVAKORN เป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำก็ว่าไปอีกอย่างหนึ่ง
ต่อจากนั้นมา
สมองหมา ปัญญาควาย
PAKAVAKORN ก็มาให้ความคิดเห็นอีกทีในความคิดเห็นที่ 8 ดังนี้
กลุ่มจันทบุรี เป็นธรรมกายที่น่ากลัวอีกกลุ่มหนึ่งเลยครับ ผมไม่แอนตี้ วิชานี้นะ แต่ไม่ไหว กะคนอารมณ์ ก้าวร้าว รุนแรง ขนาดนี้
ถึงขนาดหัวหน้ากลุ่ม สามารถไปช่วยชีวิตพระพุทธเจ้าได้
หลายพระองค์จากเงื้อมมือมาร จนนิพพานใกล้สู่ความสงบ
ธรรมกาย บางกลุ่ม ก้อ ไม่เอาพวกเค้าเหมือนกัน วิปัสสนู เต็มรูปแบบ ใครวิจารณ์ ไม่ได้ด้วย ออกอาการมาก
ข้อวิพากษ์วิจารณ์ข้อความนี้ก่อน
เพราะ เนื้อที่จะหมด
กลุ่มจันทบุรี เป็นธรรมกายที่น่ากลัวอีกกลุ่มหนึ่งเลยครับ ผมไม่แอนตี้ วิชานี้นะ แต่ไม่ไหว กะคนอารมณ์ ก้าวร้าว รุนแรง ขนาดนี้
ตรงนี้
สมองหมา ปัญญาควาย
PAKAVAKORN มันก็พล่ามของมันไปเรื่อย ตัวมันเอง
มันจะเข้าใจความหมายที่มันเขียนมาหรือไม่...
มันก็เขียนไปตามความโง่ของมัน
คือ ข้อความที่มันเขียนมานั้น มันมั่ว ไม่ถูกหลักภาษาไทย ไม่ถูกหลักความจริง
ในกลุ่มของคุณลุงการุณย์ทั้งหมดเป็นร้อยๆ
คนนั้น มี Hard-core ก็มีผมคนเดียว
เพราะ ผมปรับมากจากหลักการของผู้บริหาร
คนที่จะเป็นผู้นำคน
หรือเป็นผู้บริหารคนนั้น ต้องมีความก้าวร้าวบ้าง
ทำนุ่มนิ่ม นุ่มนิ่มเป็นนางเอกหนังไทย ใครมันจะไปยอมรับ
พวกสมองหมา
ปัญญาควายทั้งหลาย อย่างเช่น PAKAVAKORN เป็นต้น มันต้องเจอคนอย่างผมนี่
เอากรณีของคุณลุงการุณย์
บุญมานุชเป็นตัวอย่างก็ได้
คุณลุงการุณย์เผยแพร่ธรรมะมาเป็นเวลานาน เขียนหนังสือเผยแพร่ด้วย ออกเงินเองทั้งหมด
คุณลุงทำเพื่อปกป้องพระศาสนา
ทำงานไป ไม่เคยไปวิพากษ์วิจารณ์ใคร
ใครวิพากษ์วิจารณ์ลุง ด่าลุง ลุงก็ไม่เคยสนใจ
แล้วมันไปหนักหัวโคตรเหง้าเหล่ากอ
หรือไปสร้างความเดือนร้อน ให้โคตรเหง้าเหล่ากอของ สมองหมา ปัญญาควาย PAKAVAKORN ตรงไหน
ขอบอกก่อนว่า
สมองหมา ปัญญาควาย
PAKAVAKORN ด่าคุณลุงการุณย์มานานแล้ว ผมเพิ่งมาอ่านพบ ไม่ใช่ว่า ผมไปด่ามันก่อน
แล้วมันจึงลามปามไปถึงคุณลุง
สมองหมา
ปัญญาควาย
PAKAVAKORN ไม่ใช่คนในสายวิชาธรรมกายด้วย
ประการสำคัญก็คือ
สมองหมา ปัญญาควาย
PAKAVAKORN มันมีความรู้ในทางศาสนาพุทธอยู่ในระดับไหน
ไอ้สันขวานอย่างนี้
ต้องสาปแช่งซ้ำอีกสักครั้ง
ครั้งที่
๑
ด้วย
“บุญ บารมี รัศมี กำลัง ฤทธิ์ อำนาจ สิทธิ
เฉียบขาด” ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมา ตั้งแต่อดีตชาติ ปัจจุบันชาติ
และอนาคตชาติ ข้าพเจ้าขอสาปแช่งให้สมองหมา ปัญญาควาย PAKAVAKORN จงเกิดความวิบัติทั้งทางโลกและทางธรรม นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ไม่มีที่สิ้นสุด
ครั้งที่
๒
ด้วย
“บุญ บารมี รัศมี กำลัง ฤทธิ์ อำนาจ สิทธิ
เฉียบขาด” ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมา ตั้งแต่อดีตชาติ ปัจจุบันชาติ
และอนาคตชาติ ข้าพเจ้าขอสาปแช่งให้สมองหมา ปัญญาควาย PAKAVAKORN จงเกิดความวิบัติทั้งทางโลกและทางธรรม นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ไม่มีที่สิ้นสุด
ครั้งที่
๓
ด้วย
“บุญ บารมี รัศมี กำลัง ฤทธิ์ อำนาจ สิทธิ เฉียบขาด”
ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมา ตั้งแต่อดีตชาติ ปัจจุบันชาติ และอนาคตชาติ
ข้าพเจ้าขอสาปแช่งให้สมองหมา ปัญญาควาย PAKAVAKORN จงเกิดความวิบัติทั้งทางโลกและทางธรรม
นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ไม่มีที่สิ้นสุด
พุทธวัจนะในพระไตรปิฎก กล่าวไว้ว่า
ตอบลบดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทางนี้เป็นทางสายเอก เพื่อความบริสุทธิ์หมดจดของเหล่าสัตว์
เพื่อข้ามพ้นความโศก และความคร่ำครวญ เพื่อความอัสดงแห่งทุกข์ และโทมนัส
เพื่อบรรลุโลกุตตระมรรค เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งนิพพาน นี้คือ "สติปัฏฐาน ๔"
พระพุทธเจ้าทรงจำแนกศีลข้อที่ ๔ ออกเป็น "วจีทุจริต ๔ ประการ" ดังนี้
๑. มุสาวาท คือ การโป้ปดมดเท็จ
๒. ปิสุณาวาจา คือ การพูดส่อเสียด
๓. ผรุสวาจา คือ การพูดจาหยาบคาย
๔. สัมผัปปลาปะ คือ การพูดเพ้อเจ้อ
บุคคลซึ่งเป็นกัลยาณมิตร ย่อมเพียรรักษาศีลให้บริสุทธิ์
แล้วยังไง....
ตอบลบโพธิปักขยธรรมก็เป็นทางสายเอก สติปัฏฐาน 4 อยู่ในโพธิปักขธรรม
อ่านให้มากกว่านี้ จะได้ฉลาดขึ้น